สิ่งที่ผู้หางานคนอื่น ค้นหาเพิ่มเติม
การบัญชี หมายถึง กระบวนการ จัดการในส่วน ของบันทึก รายการทาง การค้า ได้แก่ การเขียนบันทึก รายการ ทางการค้า การ จำแนกแยก ประเภท หมวดหมู่ ทางการค้า การสรุปผล การดำเนินงาน รวมไปถึง การวิเคราะห์ และการแปล ความหมาย ข้อมูลของ นักบัญชี
งานบัญชี เป็นงานที่ จะต้องทำ เกี่ยวกับ ระบบบัญชี และการเงิน หรือคอยตรวจสอบ ระบบ การควบคุม ภายในที่ เกี่ยวข้อง กับการจัดทำ งบการเงิน จึงต้องประสานงาน กับฝ่ายต่างๆ พร้อมรู้สถานะ ผลประกอบการ ของบริษัท ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ เป็นข้อมูลสำคัญ ที่จะช่วยประกอบ การตัดสินใจ ของผู้บริหาร สายงานบัญชี จึงเป็นสายงาน ที่ท้าทาย เพราะจะต้อง ทำงานให้สำเร็จ ตามเป้าหมาย ต้องละเอียดอ่อน อดทน และกระตือรือร้น อยู่ตลอดเวลา เพื่อการทำงาน สำเร็จลุล่วง ตามเป้าหมาย
นักบัญชี อาชีพฮอตฮิต ที่ไม่ว่าธุรกิจ ขนาดเล็ก หรือใหญ่ ต้องรู้จัก อาชีพที่หลายๆ คนใฝ่ฝัน เพราะว่ามีโอกาส เสี่ยงน้อยที่ จะตกงาน หลายๆ คนเข้าใจ ว่านักบัญชี แค่เรียนจบ ด้านบัญชีมา ก็สามารถ เป็นได้ แต่ทว่าการ เป็นนักบัญชี กับการเป็น นักบัญชี มืออาชีพ นั้นแตกต่างกัน หากใครสามารถ ก้าวข้ามไปเป็น นักบัญชี มืออาชีพ ได้ พวกเค้าเหล่านั้น ก็น่าจะอยู่ ใกล้ความสำเร็จ ในสายงาน วิชาชีพนี้ อย่างแน่นอน
แล้วคุณสมบัติ ที่นักบัญชี มืออาชีพ ควรมี มีดังนี้
หน้าที่ความรับผิดชอบ ในการทำบัญชี เป็นหน้าที่ ที่สำคัญ วันๆ หนึ่งนักบัญชี ต้องพูดคุย ประสพพบเจอ กับผู้คน มากหน้าหลายตา และยังต้อง จัดการกับ กองเอกสาร อันมโหฬาร ดังนั้น การบริหาร จัดการที่ดี นั้นเป็นสิ่ง ที่สำคัญ
การบริหาร จัดการที่ดี สำหรับนักบัญชี มืออาชีพ คืออะไร? การบริหาร จัดการที่ดี คือ การที่เรา สามารถ จัดระบบ การทำงาน และความรับผิดชอบ ได้อย่างลงตัว เช่น บริหารเวลา ให้กับลูกค้า แต่ละราย ได้เหมาะสม ยื่นงบ ยื่นภาษี ได้ก่อน หรือภายในเวลา ที่กำหนด หรือแม้แต่ กระทั่งการ จัดระบบ เอกสาร ทางบัญชี ได้อย่างเป็น ระเบียบ หาง่าย หายไม่มี
เทคนิคดี ๆ สำหรับนักบัญชี มืออาชีพ ในการบริหาร จัดการนั้น มีมากมาย เช่น การสร้างปฏิทิน งานจดเวลา นัดหมาย และกำหนดเวลา ต่าง ๆ หรือการทำ ลิสรายการ ที่ต้องทำ สำหรับงาน แต่ละวัน แต่ละอาทิตย์ แต่ละเดือน ปัจจุบัน มีโปรแกรม และแอปพลเคชั่น มากมายให้เรา ได้เลือกใช้ ถ้าเป็นคน ขี้ลืมก็ให้ โปรแกรมเหล่านี้ ช่วยจำแล้ว ตั้งค่าให้ เตือนเรา ล่วงหน้าซะ แค่นี้ชีวิต นักบัญชี ก็ง่ายขึ้นเยอะ
การบริหาร เวลา เป็นความสามารถ ที่คลาสสิค และน่าหลงใหล ที่สุด สำหรับสาย งานบัญชี ไม่มีนักบัญชี คนไหน อยากยื่นงบ หรือยื่นภาษีช้า เพราะนอกจาก จะโดนลูกค้า ว่าแล้วยังจะต้อง เสียทรัพย์ เพราะถูกปรับ จริงไหม
สำหรับอาชีพนักบัญชี การบริหารเวลาที่ดีจะต้องเริ่มจากการจัดลำดับความสำคัญ หรือว่า ลำดับความสำคัญ ของงาน ของงาน และต้องให้บัตเจ็ต เวลาสำหรับ การทำงาน แต่ละงาน ไว้ว่างานนี้ ควรเริ่มทำ เมื่อไหร่ และต้องเสร็จ ภายในเมื่อไหร่ ทริปดีๆ ที่ฝากไว้ ให้ใช้กัน คือ อย่ากำหนด deadline เป็นวันสุดท้าย ของการยื่นแบบ เผื่อเวลาไ ว้บ้างสำหรับ ความผิดพลาด หน้างานก็ดีนะ เช่น ถ้าวันสุดท้าย ของการยื่นแบบ คือวันที่ 30 อย่ากำหนด deadline ตัวเองเป็นวันที่ 30 ให้กำหนด ไว้ซักวันที่ 23 เผื่อว่า ยื่นแบบจริง ระบบล่ม หรือเสียเวลา กับการกรอก ข้อมูลแบบงงๆ จะได้พอ มีเวลาเหลือ ไม่ไฟรนก้นกัน
ถ้าความเกรงใจ เป็นสมบัติ ของผู้ดี ความซื่อสัตย์ นี้ก็คือ หัวใจของ นักทำบัญชี ทั่วโลกเช่นเดียวกัน คงไม่ต้อง อธิบายให้ยืดยาว ว่าทำไม นักบัญชี ต้องมี ความซื่อสัตย์ แค่คิดง่ายๆ ว่าถ้าเป็น ลูกค้า เราจะเลือก จ้างนักบัญชี คนไหน ระหว่างคน ที่มีประวัติ ฉ้อโกง กับนักบัญชี ใสๆ ไร้คดี ติดตัว เมื่อใดก็ตาม ที่มีเรื่องเทาๆ ให้เราต้อง ตัดสินใจ ขอให้คิด อยู่เสมอว่า สิ่งที่เรา จะตัดสินใจ นั้นถูกต้องตาม กฎหมายไหม และให้ประโยชน์ แก่ใคร บางทีถูกใจ แต่ไม่ถูก กฎหมาย สุดท้ายแล้ว มีปัญหา ภายหลัง ถึงตอนนั้น ก็คงต้อง ตัวใครตัวมัน
การเป็น นักบัญชีที่ดี ไม่ใช่แค่ ลงบัญชี เก่งอย่างเดียว เราจะต้อง สื่อสารให้ได้ และสื่อสาร ให้เป็นด้วย อย่าลืมว่า เราอยู่ได้ เพราะลูกค้า และลูกค้า ส่วนใหญ่ เขาไม่ค่อยเข้าใจ บัญชี และกฎหมายภาษี เค้าจึงต้องพึ่งเรา ฉะนั้น ผู้ทำบัญชี มืออาชีพ จงอย่าเพิ่งนอย อย่าเพิ่งเหวี่ยง ถ้าลูกค้า จะงงไปงงมา เราต้องพยายาม สื่อสารและอธิบาย ให้เค้าเข้าใจ ทำเรื่องยาก ให้เป็นเรื่องง่าย อธิบาย สื่อสารให้คนอื่น เข้าใจได้ แค่นี้ความสำเร็จ ของนักบัญชี ก็อยู่ไม่ไกล เกินเอื้อม ถ้าจะให้สูง ไปกว่านั้น ผู้ทำบัญชี ควรจะสามารถ สื่อสารทั้งภาษาพูด และภาษาเขียนได้ดี นำเสนองาน และวิเคราะห์ ข้อมูลต่างๆ ในที่ประชุมได้ แค่นี้ก็ จะช่วย เพิ่มมูลค่า ให้กับตนเอง ในอีกระดับหนึ่ง
วิชาชีพบัญชี มีการเปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดเวลา มาตรฐาน การบัญชี มีการอัปเดต เรื่อย ๆ ชนิดที่เรียก ได้ว่ายังงงๆ กับมาตรฐาน อันเดิมอยู่เลย มาตรฐาน ฉบับใหม่ ก็จะบังคับ ใช้อีกแล้ว ทีนี้เรา จะทำอย่างไร ให้เป็นคน ไม่ตกเทรน? ง่ายๆ เลยก็คือ เราต้องปรับตัว ให้ทันทั้ง กับโลกธุรกิจ ที่หมุนเร็ว และมาตรฐาน การบัญชี ที่อัปเดต อยู่ตลอดเวลา โดยอาจจะเริ่ม จากการแบ่ง เวลาวันละ 5-10 นาที ในการท่อง โลกโซเซียล มาอ่านข่าวสาร ธุรกิจบ้าง อัปเดรต ความรู้ใหม่ๆ บ้าง หรือถ้าอยาก จะให้อินเทรน ไปกว่านั้น ในเดือนๆ นึง หาเวลาว่าง เข้าอบรมพัฒนา ความรู้ เพิ่มเติมบ้าง ก็จะดีไม่น้อย หรือถ้าใคร จะเลือกอบรม CPD ออนไลน์ผ่านทาง www.thaicpdonline.com ก็ทำได้ง่ายๆ นอกจาก จะสะดวก แล้วยังประหยัด เวลาและค่าใช้จ่าย ไปได้เยอะ
ตำแหน่ง Accounting Executive เงืนเดือน 15,000-30,000 บาท
หน้าที่ : ดูแลเงินสดรับ ค่าใช้จ่าย การลงทุน การจัดซื้อ สินค้าคงคลัง สินทรัพย์ และทำเงินเดือน บันทึกการทำ ธุรกรรม ทางบัญชีทั้งหมด จัดเตรียม และยื่นรายงาน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ดูแลควบคุม สินทรัพย์ และสินค้า คงคลัง และจัดการ เรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับงานบัญชี ทั่วไป
ตำแหน่ง Accounting Assistant เงินเดือน 18,000 – 40,000 บาท
หน้าที่ : จัดการดูแล บัญชีทั่วไป รวมทั้งบัญชี เจ้าหนี้การค้า ลูกหนี้การค้า และบัญชี แยกประเภททั่วไป ทำงบดุล และงบพิสูจน์ ยอดเงิน มีความเชี่ยวชาญ การบัญชี ด้านใดด้านหนึ่ง และเข้าใจ ขั้นตอนการ ทำบุญชี
ตำแหน่ง Accounting Analyst เงินเดือน 30,000 – 60,000 บาท
หน้าที่ : ดูแลบัญชี สินทรัพย์ถาวร ทำงบพิสูจน์ ยอดเงินฝาก ธนาคาร จัดสรรต้นทุน ปิดบัญชีการเงิน การบัญชี และพิสูจน์ ยอดบัญชีงบดุล ตรวจสอบ และดูแล การควบคุม ทางการบัญชี เพื่อให้บันทึก ทางการเงิน ถูกต้อง และเสร็จภายใน เวลาที่กำหนด
ตำแหน่ง Accounting Manager เงินเดือน 50,000 – 150,000 บาท
หน้าที่ : บริหาร ควบคุม มอบหมายงาน ให้กับผู้ใต้ บังคับบัญชา ดำเนินตาม นโยบาย ให้เป็นไป ตามมาตรฐาน ของบัญชี จัดทำรายงาน สรุปต่างๆ ดูแลความเรียบร้อย และตรวจสอบ การทำธุรกรรม รายวัน รับผิดชอบ บริหารเรื่อง บัญชีและภาษี
ระยะเวลา ในการทำงาน
เวลาเข้างาน ของงานบัญชี ส่วนใหญ่ จะทำงาน ตั้งแต่ วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ บางที่ ก็ทำงานวันเสาร์ด้วย เริ่มตั้งแต่ 8 โมง ถึง 5 โมงเย็น หรือ 9 โมง ถึง 6 โมงเย็น พัก 1 ชั่วโมง ถ้าเป็นธุรกิจที่ขนาด ไม่ใหญ่มาก ก็อาจจะ ไม่ต้องทำ โอทีมาก ทำแค่ช่วง ปิดบัญชี ตอนต้นเดือน แต่ถ้ามัน มีงานเพิ่ม มาอย่างเช่น พวกรายงานต่างๆ ก็อาจจะ ทำงานหนักขึ้น ชั่วโมงทำงาน ก็จะยาวขึ้น มันก็ ขึ้นอยู่กับ ลักษณะ ของธุรกิจด้วย
สายงานบัญชี ส่วนใหญ่ จะทำงาน อยู่ในออฟฟิต ทำเป็นเวลา และจะมี ช่วงเวลา ที่จะต้อง ปิดงบ ดังนั้น การใช้ชีวิต จะอาศัยใกล้ กับที่ทำงาน อาจจะเช่าบ้าน หรือซื้อบ้าน กินเป็นเวลา ในช่วงที่ ไม่ได้ปิดงบ และในช่วง ปิดงบจะ เป็นช่วง ที่เร่งรีบ การกิน ก็ต้อง เร่งรีบไปด้วย เพื่อให้งาน ออกมาเสร็จ ตามกำหนดเวลา พอจะยก ภาพรวมการ ของนักบัญชี ไว้ดังนี้
สถานที่ทำงาน
ต้องบอกก่อน ว่าทุกๆ บริษัท ต้องมีอาชีพ บัญชีอยู่แล้ว เพราะว่างาน บัญชีมันต้อง เอาไปส่งต่อ หลายคนตาม ที่กฎหมาย ระบุ เพราะฉะนั้น ทุกๆองค์กร แม้ว่าจะเป็น non-profit หรือว่าอะไรก็ตาม เพราะฉะนั้น สถานที่ทำงาน มันก็ต้อง แล้วแต่ว่า เป็นธุรกิจไหน จะเป็นตึก ออฟฟิศ ซึ่งส่วนใหญ่ มันก็เป็น แบบนั้น หรือว่าเป็น โรงงาน เขาก็จะไป อยู่ใกล้โรงงาน เพราะว่าใกล้ กับข้อมูลที่สุด หรืออย่าง บริษัทเป็น ศูนย์การค้า ก็จะมีบ้าง ที่ต้องไปทำ สำรวจ ตามศูนย์การค้า หรือจะเป็น โรงพยาบาล สถาบันศัลยกรรม ธุรกิจเรือ ธุรกิจท่องเที่ยว หรือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มันก็ต้อง มีแผนกบัญชี เหมือนกัน แล้วแต่ธุรกิจ ถ้าบริษัท เล็กมากๆ ก็เป็นไปได้ว่า เขาอาจจะ เอาให้บริษัท ข้างนอก เข้ามาทำ ทางเจ้าของ ธุรกิจ ก็จะส่ง เอกสารไป ให้เขา ลงบัญชี แล้วก็ถ้า เป็นไซส์ใหญ่ ขึ้นมานิดนึง ก็จะมี พนักงาน บัญชี แผนกบัญชี ไว้ภายใน องค์กร มันก็เป็น เรื่องที่ดีกว่า สถานที่ทำงาน ก็จะแล้ว แต่ธุรกิจ ว่าจะให้เก็บข้อมูลบัญชี ไว้ที่ไหน
ส่งแบบฟอร์มเรียบร้อยแล้ว